วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

พังราบ700หลัง มังกรร้าว สอบศุภักษรหาปม


ฐานเอียงหรือไฟชอร์ต สรุปตาย4ศพเจ็บอีก74 เติ้งรุดเยี่ยม-มอบเงิน สั่งเลิกจุดพลุตลอดกาล



กู้มังกร - เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 25 ม.ค. หลังเกิดเหตุพลุระเบิดระหว่างเปิดงานตรุษจีนปีมังกรทอง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

ผู้ว่าฯสุพรรณฯเผยเหตุบึ้มวินาศ เพราะพลุจุดฉลองวางเอียงจนระเบิด เข้าบ้านเรือน เติ้งและครอบครัวขอโทษคนสุพรรณ พร้อมเยียวยา เต็มที่ มอบให้คนเจ็บก่อน 1 หมื่นบาท ยันเดินหน้าจัดงานต่อจนถึง 29 ม.ค. แต่งดจุดพลุทั้งหมดอีก คาดเสียหายหลายสิบล้าน สรรพาวุธลุยเคลียร์เก็บกู้ซากพลุแล้ว ตร.สอบพยานกว่า 300 ปาก ส่งพฐ.เก็บหลักฐาน 2 รอบ เตรียมแจ้งข้อหาผู้รับผิดชอบทั้งแพ่งและอาญา ด้าน"คอมอาร์ต"ผู้จัด ยันรับผิดชอบทั้งหมด แต่ขอรอความชัดเจนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เผยตอนนี้ก็ส่งคนดูแลคนเจ็บ-ตายแล้ว สุดสลดแม่เฒ่าถูกไฟคลอกดับอีก 1 สรุปตาย 4 เจ็บ 74 ราย

เผยต้นเหตุจากพลุเอียง

จากเหตุพลุเปิดงานตรุษจีนสุพรรณบุรี ปีมังกรสวรรค์ ที่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ในชุดปีมังกรสวรรค์อวยชัยให้พรตรุษจีน เกิดลุกไหม้ระเบิด ส่งผลให้เพลิงไหม้บ้านเรือนในชุมชนวัดพระธาตุ บริเวณด้านหลังศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งเป็นชุมชนแออัดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กุฏิพระเสียหาย รวมทั้งบ้านเรือนกว่า 200 หลังคาเรือน ประชาชนบาดเจ็บกว่า 70 ราย มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 3 ราย เนื่องจากไฟคลอกเสียชีวิต ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงต้องอพยพหนีอลหม่าน เจ้าหน้าที่ต้องนำรถดับเพลิง 5 คัน ใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้และใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงที่บริเวณพลุที่พร้อมจะปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามานำพลุทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี กล่าวถึงสาเหตุของการระเบิดดังกล่าวว่า เกิดจากพลุที่เตรียมจุดด้านหลังเวที เกิดเอียง ไม่ตั้งตรงขึ้นฟ้า ทำให้มีพลุพุ่งไปโดนรถดับเพลิงที่จอดไว้ควบคุมสถานการณ์ อีกส่วนก็พุ่งไปที่บ้านเรือนประชาชน จนไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ระเบิดต่อเนื่องสนั่นหวั่นไหว

เร่งสอบหาคนผิด

นายสมศักย์กล่าวว่า ขณะนี้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้ามาตรวจสอบพลุที่เหลืออยู่ เพื่อเก็บพลุทั้งหมดพร้อมถอดสายชนวนออกแล้ว สำหรับเรื่องของผู้จุดพลุนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบกันแน่ ระหว่างผู้รับจัดงานหรือผู้รับเหมาจุด ทำการประมาทหรือไม่ เรื่องนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะเป็นคดีทางแพ่งและอาญา คงต้องรอการตรวจสอบ สำหรับค่าเสียหายนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ ถ้าตีราคาว่าหลังละแสนก็คูณ 200 ก็ร่วม 20 ล้านบาทแล้ว

บ้านพังยับ 734 หลัง

นายสมศักย์กล่าวว่า ล่าสุดจากการตรวจสอบบ้านเรือนเสียหาย 734 หลัง ภายในรัศมี 3 ก.ม. เสียหายทั้งหลัง 71 หลัง มีผู้แจ้งความเสียหายแล้ว 350 ราย ส่วนพระปรางค์ในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จากการตรวจสอบไม่ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดแต่อย่างใด ขอให้อย่าเชื่อข่าวลือ สำหรับผู้ที่จุดพลุหรือบริษัทที่รับจุดนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าใครเป็นคู่สัญญาหลักคู่สัญญารอง หรือคู่สัญญาเดียวเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะเรียกใครมาสอบบ้าง

ชดเชยให้หลังละ 3 หมื่นบาท

นายสมศักย์กล่าวว่า พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น โดยหากเป็นบ้านที่เสียหายทั้งหลังก็จะมอบเงินช่วยเหลือ 30,000 บาท และทางมูลนิธิศาลหลักเมือง ในฐานะผู้จัดการก็จะให้การช่วยเหลือโดยการสร้างบ้านให้ใหม่ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้นแล้วจำนวน 24 ราย ที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรวมเป็นเงิน 1 แสนบาท ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีที่พักอาศัยทางจังหวัดก็ได้จัดเต็นท์ให้นอนที่วัด หรือหากเป็นห่วงทรัพย์สินภายในบ้านก็จัดเต็นท์ให้นอนใกล้กับบ้านพักได้

มท.1 ชี้จนท.ไม่รอบคอบ

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และมหาดไทย กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์พลุระเบิดจนมีผู้เสียชีวิตที่ จ.สุพรรณบุรี ว่า หลังจากเกิดเหตุ รับรายงานจากผู้ว่าฯสุพรรณบุรี เรื่องดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครต้องการให้เกิด และไม่ใช่เรื่องที่ผู้ใหญ่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของผู้ปฏิบัติ ความรอบคอบ ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญ ว่าการจัดงานจะต้องใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน โดยจะต้องกำหนดมาตรการที่เข้มข้นในการดูแลการจัดงานในที่สาธารณะเพิ่มมากขึ้น ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นตนรับรายงานว่าสาเหตุเกิดจากกระบอกพลุเอียง หากตั้งตรงก็คงไม่มีปัญหา จึงถือว่าเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ดังนั้นจะต้องมีการกำชับไปยังทุกจังหวัด แต่จะไม่มีการสั่งห้ามจุดพลุ เพราะพลุถือเป็นสีสันของงานที่จัดขึ้น

ทยอยสำรวจความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าเหตุพลุระเบิดในงานฉลองเทศกาลตรุษจีน ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จ.สุพรรณบุรี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้กันเป็นเขตหวงห้ามและห้ามประชาชนเข้าไปบริเวณที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าอาจมีพลุที่หลงเหลือและอาจเกิดอันตรายขึ้นกับประชาชนได้ ส่วนของประชาชนทั่วไปที่อยู่ในชุมชนวัดพระธาตุ ซึ่งอยู่ติดกับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีและเป็นชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุจุดพลุและเกิดระเบิดเพลิงไหม้ เริ่มเข้าสำรวจความเสียหายบ้านเรือนของตนเองตั้งแต่เช้าตรู่ บางส่วนเข้าเก็บข้าวของที่ยังพอเหลืออยู่และไม่เสียหายไปกับแรงระเบิดและเพลิงไหม้ออกไปจากบ้านของตัวเอง เพื่อเตรียมไปพักอาศัยชั่วคราวยังบ้านญาติ หรือสถานที่อื่นๆ ก่อน เนื่องจากสภาพบ้านส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้พักอาศัยได้ โดยหลังคาส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายแทบทุกหลังคาเรือน

พินาศ - สภาพบ้านเรือนบริเวณใกล้เคียงมังกรยักษ์คู่เมืองสุพรรณ บุรี ได้รับความเสียหายกว่า 700 หลัง จากเพลิงไหม้และแรงระเบิดของพลุที่จุดในงานตรุษจีนเมื่อค่ำวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา



นอกจากบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายแล้ว ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งอยู่ติดกับศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และคาดอาจต้องใช้งบฯ หลายสิบล้านบาทในการบูรณะ เพราะกุฏิสงฆ์ซึ่งเป็นอาคารไม้เสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ศาลาการเปรียญ หรือแม้หลังคาพระอุโบสถก็ได้รับแรงกระแทกและหล่นลงมาเสียหายมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์

พิษพลุระเบิด-มังกรร้าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อิทธิพลจากแรงระเบิดของพลุเมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค. ส่งผลให้ปลายหนวดด้านของมังกรสวรรค์ ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ลูกหลานชาวมังกรหัก ส่วนบริเวณก้อนเมฆ และท่อนหางมังกร เป็นรอยร้าวหลายจุด โดยเฉพาะฝั่งด้านขวา ที่อยู่ติดกับลานจุดพลุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่เก็บกู้พลุที่ยังไม่ระเบิด 216 ลูก โดยตัดสายวงจรและเอาดินระเบิดออก จากนั้นนำไปจุ่มในถังน้ำเพื่อป้องกันการระเบิดเกิดขึ้น ทั้งนี้จากการตรวจสอบทราบว่าพลุดังกล่าวจุดด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนสาเหตุคาดว่ามีพลุบางอันที่ระเบิดไม่สมบูรณ์ และกระเด็นไปโดนจุดที่เก็บพลุที่ใช้ในงานซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน จึงทำให้เกิดการระเบิดขึ้น

เดินหน้าจัดต่อ-ห้ามจุดพลุ

นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายของนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า คณะกรรมการจัดงานตรุษจีน ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือชุมชนและจะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด และขอโทษต่อผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์พลุระเบิดดังกล่าว

ด้านนายบรรหารกล่าวว่า งานฉลองตรุษจีนที่พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 24-29 ม.ค. นี้ จะให้ดำเนินการจัดงานต่อและได้สั่งให้งดจุดพลุอีก และงานต่อไปหลังจากนี้ก็จะไม่มีการจุพลุอีกแล้ว

"เติ้ง"เดินสายขอโทษชาวบ้าน

ทั้งนี้ นายบรรหาร พร้อมนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วยที่รับบาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช เขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี โดยนายบรรหาร มอบกระเช้าแบรนด์และเงินสดคนละ 1 หมื่นบาท พร้อมรับปากว่าจะดูแลบ้านที่พักอาศัยของชาวบ้านให้กลับมาเหมือนเดิมและขอโทษผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกราย เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นจนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนหลายราย เพราะจัดทุกปีก็ไม่มีปัญหาใดๆ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้งหมดพร้อมกำชับให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนทั้งหมด

น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา บุตรสาวนายบรรหาร กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา มารดา จะไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ ร.พ.และศูนย์อพยพ เหตุการณ์เมื่อคืนนี้หากไม่มีตัวมังกรกั้นไว้ คนที่อยู่ด้านหน้าเวทีอาจบาดเจ็บไปด้วยจำนวนมาก ขอยืนยันว่าคณะกรรมการจัดงานพร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยจะหารือรายละเอียดเรื่องการช่วยเหลือ ซึ่งนายบรรหาร บิดา เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสั่งการให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่

สธ.สรุปตาย 4 เจ็บ 74

นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยพ.ญ.ประนอม คำเที่ยง ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดในงานฉลองตรุษจีนศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จ.สุพรรณบุรี

นายวิทยากล่าวว่า จากเหตุการณ์พลุระเบิดครั้งนี้ มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 74 ราย กระทรวงสาธารณสุขระดมหน่วยแพทย์กู้ชีพจากร.พ.ในสุพรรณบุรีกว่า 10 ทีม ดูแลช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ มีผู้เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุ 3 ราย เป็นชายทั้งหมด และหญิงชราอายุ 70 ปีเสียชีวิตอีก 1 ราย

ส่วนผู้บาดเจ็บได้นำส่งรักษาที่ร.พ. 2 แห่ง ประกอบด้วย 1.ร.พ.เจ้าพระยายมราช จำนวน 60 ราย โดยแพทย์รับตัวไว้รักษา 15 ราย 2.ร.พ.ศุภมิตร 14 ราย แพทย์รับตัวไว้รักษา 5 ราย ส่วนที่เหลืออาการไม่หนัก แพทย์ดูแลบาดแผลและให้กลับบ้านได้

สำหรับรายชื่อผู้บาดเจ็บทั้ง 20 รายที่ยังรักษาตัวอยู่ร.พ.มีดังนี้ ร.พ.เจ้าพระยายมราช 15 ราย 1.นางสมาพร คุ้มฉายา 2.นายประกิจ นิ่มนวล 3.นายชลิต กลิ่นเกตุ 4.นางฉวี บริสุทธิ์ 5.นายขวัญเมือง คุ้มฉายา 6.ด.ช.ธวัช บริสุทธิ์ 7.นายสำราญ แซ่เจือ 8.ด.ญ.ศรินรัตน์ รินสินจ้อย 9.ด.ช.เกริก(ใส่เสื้อลายสกอต) 10.นางเปลื้อง แก้วศรีนวล 11.นางขันแก้ว กุมกัน 12.นางสังเวียน จิตรดา 13.นางอารี แสนสุข 14.ด.ช. ธานาวุฒิ สุขพันธ์ และ15.นางไข่ ล่าโทน

ที่ร.พ.ศุภมิตร 5 ราย ได้แก่ 1.นางฉันทนา อำนวยพร 2.นางลำยอง พานสกุล 3.นายสงวน ฉ่ำแจ่ม 4.นายดอกรัก เรืองมาก 5.พระภิกษุอุทัย ชำนาญศิลป์

อาการสาหัสอีก 2 ราย

รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า สำหรับผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย รายแรกเป็นหญิงชาว จ.ชัยนาท ถูกแท่งเหล็กยาว 1.5 เมตร ทิ่มด้านหลังบาดแผลยาวประมาณ 40 ซ.ม. แพทย์นำเข้าห้องผ่าตัดเพื่อเอาเหล็กออก และให้เลือด 8 ยูนิต ขณะนี้รักษาตัวที่หอศัลยกรรมหญิง ร.พ.เจ้าพระยายมราช อีก 2 รายอาการอยู่ในขั้นวิกฤตน่าห่วง รายแรกเป็นชายอายุ 40 ปี ศีรษะแตกมีบาดแผลที่ใบหน้า และรอบๆ โพรงจมูก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะนี้รู้สึกตัวดี เอกซเรย์สมองไม่พบสิ่งผิดปกติ สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะนี้พักรักษาอยู่ร.พ.เจ้าพระยายมราช ห้องผู้ป่วยไอซียู ศัลยกรรมชาย

ตรวจพลุ - นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ร่วมตรวจดูพลุงานตรุษจีนซึ่งเหลือตกค้างอยู่ ยังไม่ระเบิด เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมมาแช่น้ำไว้เพื่อความปลอดภัย ที่วัดพระธาตุฯ จ.สุพรรณบุรี เมื่อ 25 ม.ค.



ส่วนผู้ป่วยที่รักษาตัวที่เหลืออีก 17 ราย อาการอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ส่วนใหญ่จะมีบาดแผลเล็กน้อยตามใบหน้าและแขนขา จึงได้กำชับให้ทีมแพทย์และพยาบาลให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด และกระทรวงสาธารณสุขจะให้การดูแลรักษาฟรีตามสิทธิ และสั่งการร.พ. เจ้าพระยายมราช เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวแก่ประชาชนที่บ้านเรือนถูกไฟไหม้จากเหตุพลุระเบิดประมาณ 20 หลังคาเรือน พร้อมกับประสานรมว.มหาดไทย และผู้ว่าฯสุพรรณบุรี ให้ การดูแลเยียวยาผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตทุกราย รวมทั้งประชาชนที่บ้านถูกไฟไหม้ด้วย

นายชัชรินทร์ ปิ่นสุวรรณ ผอ.โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช เขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย นายวินัย พันธ์แตง นายสามารถ ศรีนิล นายชาติชาย งามบุปผา โดยทั้ง 3 เป็นเจ้าหน้าที่จุดพลุ และนางลำยอง พานสกุล เป็นชาวบ้านที่ถูกไฟคลอก

สื่อตปท.ชี้ไฟลามเต็นท์

วันเดียวกันสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเหตุไฟไหม้รับงานตรุษจีนสุพรรณบุรีปีมังกรสวรรค์ ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค. โดยระบุเป็นเหตุสลดไม่คาดคิด หลังการจุดพลุเฉลิมฉลองเกิดความผิดพลาด ส่งผลให้แรงระเบิดลุกไหม้และเผาทำลายบ้านเรือนบริเวณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดพระธาตุ) จนวอดวายถึง 20 หลัง และอยู่ในขั้นเสียหายหนักอีกกว่า 30 หลังคา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยืนยันมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีมากกว่า 50 ราย

ทั้งนี้พระภิกษุจากวัดใกล้เคียงเล่าว่า พลุเริ่มปะทุขึ้นระหว่างการแสดงดอกไม้ไฟชุดที่ 3 ซึ่งตอนนั้นยังไม่รุนแรง แต่พอพลุตกลงบนเต็นท์เก็บดอกไม้ไฟ ระเบิดขนาดใหญ่ก็เกิดขึ้น ซึ่งนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี ยอม รับเป็นผู้สั่งการให้ตั้งเต็นท์เก็บพลุใกล้พื้นที่ชุมชน แต่คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นเหตุเพลิงไหม้รุนแรงในเวลาต่อมา

"ญาญ่า-จอย"ขวัญผวา

ด้านนางเอกสาว "ญาญ่า"อุรัสยา เสปอร์บันด์ เผยหลังเหตุการณ์พลุระเบิดว่า ไปร่วมงานที่จ.สุพรรณบุรีเวลาประมาณ 5 โมงเย็น โดยพิธีเริ่มประมาณ 6 โมง ซึ่งในระหว่างพิธีก็มีการจุดพลุ ได้ยินเสียงดังระเบิดขึ้น แต่ไม่ได้เห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้น คนที่ร่วมงานก็ไม่ได้แตกตื่นอะไร จนงานถ่ายทอดเสร็จ ก็เดินทางกลับ ในระหว่างเดินทาง ก็มีโทรศัพท์จากนักข่าวโทร.มาถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเองไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอทราบข่าวก็ตกใจมาก และยิ่งทราบว่ามีผู้เสียชีวิตก็ยิ่งตกใจ ต้องขอแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

"พอดีพลุจุดตอนช่วงจบพอดีและหยุดการถ่ายทอดสด หนูก็ออกมาจากงานพร้อมกับแม่ กลับกรุงเทพฯทันที มารู้เรื่องนี้ก็จากพี่นักข่าวที่โทร.มาถาม ยังนึกเสียวอยู่เลยว่า ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างที่หนูอยู่แล้วเกิดความแตกตื่น มันจะน่ากลัวขนาดไหน หนูรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น" ญาญ่ากล่าว

ด้าน "จอย"รินลณี ศรีเพ็ญ พิธีกรในงานครั้งนี้ เผยว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยู่หลังเวที เป็นการเปิดงานด้วยการจุดพลุ ได้ยินแค่เสียงระเบิด แต่ไม่ทราบว่าอะไรเกิดขึ้นจริงๆ เพราะตนอยู่หน้าเวที และมังกรที่ไฟไหม้ก็อยู่สูงมาก เรื่องราวทั้งหมดเราไม่รู้ได้เลย คนที่อยู่หน้าเวทีทั้งหมดไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

มาทราบอีกทีตอนที่ขึ้นรถมาแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นก็ได้เห็นความชุลมุนว่ามีรถหน่วยกู้ชีพวิ่งเข้า-ออก แต่คนดูหน้าเวที ส่วนใหญ่จะไม่ทราบ เพราะหลังจากที่จอยทำพิธีกรจบ ก็มีคอนเสิร์ตของ ก็อต จักรพันธ์ อาบครบุรี อยู่ ซึ่งคนหน้าเวทีก็ยังเฮฮากันอยู่

เมื่อถามว่าทราบเรื่องรู้สึกอย่างไร จอยกล่าวว่า รู้สึกตกใจมาก ใจหาย ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้ มีคนเสียชีวิต บ้านไฟไหม้ คนขับรถของจอยบอกว่ามีคนถูกเหล็กเสียบ แต่จอยเองไม่เห็น รู้สึกสงสารคนที่เสียชีวิต และขอบคุณทุกคนที่โทร.มาถามว่าเกิดอะไรขึ้น

จี้รัฐเยียวยาความเสียหาย

ที่วัดพระธาตุ ถ.หลวงหาญ ต.รัวใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี บริเวณด้านหลังมังกรยักษ์ จุดที่ติดตั้งพลุที่จุดในการเปิดงานเทศกาลตรุษจีน เกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนหลายมาก นอกจากนี้ยังทำให้บ้านเรือน-วัดพระธาตุ วัดเก่าแก่เสียหาย จากแรงอัดของระเบิด โดยบ้านของนางอนงค์ ลอยพร อายุ 55 ปี ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่ติดตั้ง พลุประมาณ 100 เมตร เสียหายทั้งหลังพร้อมกับรถยนต์ฮอนด้า ซีวีค สีบรอนซ์ ทะเบียน กง 5618 สุพรรณบุรี

นางอนงค์เผยว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ขณะอยู่บริเวณหน้าบ้านเพื่อจะดูพลุ ก็เห็นกลุ่มควันสีดำ จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้น พื้นปูนสะเทือนไปหมด ไม่เหมือนกับตอนจุดพลุลูกแรกๆ หมาที่เลี้ยง 3 ตัว แมว 4 ตัว พากันร้องโหยหวน จากนั้น เศษกระเบื้องหลังคาที่อยู่ที่บ้าน ปลิวว่อนออกมา ตนเองทำอะไรไม่ถูก วิ่งหนีตายออกไปที่ถนนใหญ่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องการความช่วยเหลืออะไรจากภาครัฐบ้าง นางอนงค์กล่าวว่า ตอนนี้สภาพบ้านไม่เหลืออะไรที่เรียกว่าบ้านอีกแล้ว ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ทีวี แอร์ รถยนต์ พังหมดทุกอย่าง อยากจะให้ทางการให้ความช่วยเหลือ เพราะทุกอย่าง ไม่ได้เกิดจากตนเองเป็นผู้กระทำ

ขณะที่หน่วยงานของภาครัฐจัดตั้งศูนย์ผู้ประสบภัยขึ้นที่บริเวณศาลาการเปรียญวัดพระธาตุ โดยผู้ประสบภัยสามารถมายื่นความจำนงว่าบ้านเรือนของตัวเองได้รับความเสียหาย โดยนำเอกสารบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้านมายืนยัน ว่าเป็นผู้เสียหายจากเหตุการณ์พลุระเบิด พร้อมบันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มาอำนวยความสะดวกในการรับแจ้งอยู่ที่ศาลาการเปรียญ วัดพระธาตุ

"ศุภักษร"พร้อมรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อนายศุภวัฒน์ จงศิริ หรือศุภักษร ประธานกรรมการ บริษัท คอมอาร์ต โปรดักชั่น ผู้จัดงานตรุษจีนสุพรรณบุรี แต่เลขานุการของนายศุภวัฒน์ ชี้แจงว่า นาย ศุภวัฒน์ไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลใดๆ ในตอนนี้ ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามการควบคุมงาน และการดำเนินการหลังจากนี้ของบริษัท จนได้รับคำตอบว่า บริษัทรับจ้างจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้รับผิดชอบควบคุมดูแลกิจกรรม การแสดงทั้งหมดในพิธีเปิดงาน โดยหลังจากเกิดเหตุจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องในบริษัทเข้าสอบปากคำ จึงยังอยู่ระหว่างขั้นตอนทางกฎหมายซึ่งทางบริษัทให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ในส่วนของเหตุการณ์ ยังไม่มีความชัดเจน เพราะคนที่อยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์เสียชีวิตไป จึงต้องหาคนมาประสานข้อมูล คาดว่า 1-2 วันน่าจะมีความชัดเจน ช่วงนี้บริษัทขอให้ความสำคัญกับผู้รับบาดเจ็บก่อน

"สำหรับผู้บาดเจ็บและยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ในตอนนี้จะมีคนดูแล และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นใคร ส่วนขณะนี้ขอย้ำว่าบริษัทให้ความสำคัญกับคนเจ็บ ส่วนการดำเนินคดีทางกฎหมาย หากมีความชัดเจน บริษัทพร้อมที่จะดูแลรับผิดชอบทุกอย่าง ยืนยันว่าจะไม่หนีไปไหน พร้อมทั้งขอความเห็นใจจากทุกฝ่ายว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อยากให้เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุซึ่งทุกฝ่ายรู้สึกเสียใจ เพียงแต่ตอนนี้ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายก่อน และหากมีความชัดเจนอย่างไรบริษัทก็ยินดีที่จะตอบคำถามทั้งหมด"เลขาฯ นายศุภวัฒน์กล่าว

ตร.รอผลสอบ-พร้อมแจ้งข้อหา

ด้านพล.ต.ต.วีระ บุตรโพธิ์ ผบก.ภ.จว. สุพรรณบุรี กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายแล้วจำนวน 300 ปาก รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนี้ยังต้องสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ลงพื้นที่ดำเนินการตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้วถึง 2 รอบ เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้พลุระเบิดในครั้งนี้ ซึ่งต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานประมวลผลก่อน จึงจะทราบแน่ชัด โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะรู้ผล หากสรุปแน่ชัดแล้วว่าเหตุที่ทำให้พลุระเบิดเกิดจากอะไร ผู้รับเหมาในการจัดงานครั้งนี้จะต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบ และต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตซึ่งเป็นข้อหาหนักที่สุดในครั้งนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิต 4 ราย และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ส่วนการดำเนินการทางแพ่งก็ให้เยียวยาควบคู่กันไปกับการดำเนินคดี

ชาวบ้านแห่แจ้งความ

พ.ต.อ.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ รอง ผบก.ภจ. สุพรรณบุรี กล่าวว่า ให้พนักงานสอบสวนจากสภ.ต่างๆ กว่า 30 นาย มาให้บริการรับแจ้งความในส่วนของความเสียหาย ซึ่งมีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้แล้วราว 500 ราย ในส่วนของการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้รับจัดงาน คือ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ทราบว่า เป็นของศุภักษร ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับผิดชอบดำเนินการติดต่อประสานเพื่อมาให้ข้อมูล ส่วนการเก็บกู้พลุส่วนที่เหลืออีกประมาณ 500-600 ลูกนั้น ขณะนี้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด(EOD)ของ ภ.จว.สุพรรณบุรี ร่วม ตชด. จากค่ายพระพุทธยอดฟ้า จ.กาญจนบุรี กำลังดำเนินการตัดสายชนวนถอดเชื้อปะทุ จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ทหารสรรพาวุธ นำไปดำเนินการตามกระบวนการต่อไป
เรียกสอบ"ศุภักษร"แล้วครั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้จัดงานนี้มีบริษัทคอมอาร์ต โปรดักชั่น ของนายศุภวัฒน์ จงศิริ หรือ "ศุภักษร" ส่วนบริษัทที่รับดูแลงานด้านการจุดพลุยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ที่บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุระเบิดได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ตะโกนบอกว่าให้หยุดได้แล้วๆๆ เหมือนว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยิงพลุ จากนั้นก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น โดยขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง


น.ส. กิติยา. ลี้จินดา. ม.5/8 เลขที่ 5

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น